เห็ดนางฟ้า เป็นเห็ดที่ความต้องการของตลาดสูงขึ้นในทุกๆปี และในปัจจุบันมีแนวโน้มการบริโภคเห็ดสูงมากขึ้น ซึ่งเห็ดนางฟ้านั้นมีประโยชน์หลายอย่าง อีกทั้งยังปลูกง่ายอีกด้วย สำหรับเกษตรกรที่กำลังสนใจการปลูกเห็ดอยู่ วันนี้เรามีข้อมูลเกี่ยวกับการปลูกและประโยชน์ของเห็ดนางฟ้ามาให้ได้อ่านกัน
เห็ด นั้นมีอยู่มากมายหลากหลายชนิดด้วยกัน มีทั้งแบบกินได้แล้กินไม่ได้ เห็ดที่มนุษย์เรานิยมรับประทานกัน อย่างเช่น เห็ดหอม , เห็ดหูหนู , เห็ดหลินจือ, เห็ดกระดุม , เห็ดนางรม , เห็ดฟาง , เห็ดเข็มทอง , เห็ดโคน และเห็ดนางฟ้า
เห็ดนางฟ้า เป็นเห็ดในตระกูลเดียวกันกับเห็ดนางรมและเห็ดเป๋าฮื้อ แต่เนื้อจะแน่นกว่าเห็ดนางรมและจะมีหมวกดอกที่หนา ส่วนวิธีการปลูกนั้นสามารถปลูกได้ง่ายๆ ดังนี้
วิธีปลูกเห็ดนางฟ้า
ทำก้อนเชื้อเพาะเห็ดนางฟ้า
การทำก้อนเชื้อเห็ดนางฟ้ามีส่วนผสมหลัก ๆดังนี้
• ทำการตากและกองขี้เลื่อยยางพาราไว้ประมาณ 7 วัน จากนั้นค่อยทำการผสมโดยการเติมน้ำลงประมาณ 70 เปอร์เซนต์ เมื่อผสมเข้ากันได้ที่แล้วก็ทำการกรอกใส่ถุงเพาะเห็ด ใส่ให้ได้น้ำหนักประมาณ 800 – 900 กรัม หลังจากนั้นก็ทำการรวบปากถุงกระทุ้งกับพื้นให้แน่นพอประมาณหลังจากนั้นก็ทำการใส่คอขวด
การหยอดเชื้อและบ่มเชื้อเห็ดนางฟ้า
• เมื่อทำก้อนเชื้อเสร็จแล้ว เราก็จะนำก้อนเชื้อที่ได้ทำการหยอดเชื้อและบ่มเชื้อเห็ดนางฟ้า โดยก่อนอื่นก้อนเชื้อที่ได้นั้นเราก็จะนำมาทำการนึ่งเพื่อฆ่าเชื้อ โดยทำการนึ่งที่ระยะเวลาประมาณ 1 – 2 ชั่วโมง
• เมื่อผ่านขั้นตอนการนึ่งฆ่าเชื้อเรียบร้อยแล้ว เราก็จะทำการหยอดเชื้อเห็ดลงสู่ก้อนเชื้อ เชื้อเห็ดจากเมล็ดข้าวฟ่างควรหยอดเชื้อลงประมาณ 20 – 25 เมล็ด เมื่อหยอดเชื้อลงสู่ก้อนเชื้อเห็ดเสร็จแล้ว ให้ทำการปิดปากถุงก้อนเชื้อให้เรียบร้อย
• หลังจากทำการหยอดเชื้อลงในก้อนเชื้อเสร็จ เราก็จะทำการบ่มเชื้อเห็ดในอีกขั้นตอนหนึ่ง โดยการบ่มเชื้อนั้นต้องนำก้อนไปบ่มไว้ที่ระยะเวลาประมาณ 20-25 วัน กรรมวิธีการบ่มก็ไม่ยุ่งยากอะไร เพียงแต่ต้องเก็บให้เป็นระเบียบ ไม่ถูกแดด ไม่ถูกฝน ลมไม่โกรกไม่มีแมลง ไม่มีหนู อากาศถ่ายเทได้สะดวก
วิธีการดูแลรักษาเห็ดนางฟ้า
การรดน้ำ
• น้ำที่ใช้การรดน้ำเห็ดนางฟ้าให้ได้ผลดีนั้นควรเป็นน้ำที่สะอาดไม่มีสารเคมีและสิ่งสกปรกเจือปนไม่ว่าจะเป็นน้ำฝน น้ำบ่อหรือน้ำคลอง แต่ไม่ควรเป็นน้ำกร่อย น้ำเค็ม น้ำที่เป็นกรด หรือด่าง ถ้าเป็นน้ำประปาควรจะกักไว้ในภาชนะปากกว้างทิ้งไว้ให้คลอรีนระเหยก่อนจึงจะนำไปรดได้
• การรดน้ำในโรงเรือนเพาะเห็ดนางฟ้านั้นควรรดอย่างน้อยวันละ 2 ครั้ง ทั้งนี้เพื่อเป็นการรักษาความชื้นในโรงเรือนให้ได้นานที่สุด สังเกตดูว่าถ้าอากาศแห้งก็สามารถเพิ่มจำนวนครั้งในการรดได้อีก การรดน้ำนอกจากจะเป็นการรักษาความชื้นแล้ว ยังเป็นการรักษาอุณหภูมิในโรงเรือนให้อยู่ระหว่าง 20 – 30 องศาเซลเซียส ซึ่งเป็นอุณหภูมิที่เหมาะสมที่สุดสำหรับเห็ดนางฟ้า
• เครื่องมือที่ใช้รดน้ำเห็ดใช้ได้ทั้งบัวรดน้ำฝอยละเอียด สายยางธรรมดาติดปลายด้วยฝักบัวฝอยละเอียด หรือใช้สเปรย์ฝอยละเอียดด้วยเครื่องพ่นยาก็ได้
• การรดน้ำเห็ดนางฟ้าไม่ควรรดจนโชกหรือมีน้ำขัง ให้พยายามรดน้อย แต่รดบ่อยครั้ง เพื่อเป็นการรักษาโรงเรือนให้มีสภาพชุ่มชื้นอยู่ตลอดเวลา
• การรดน้ำต้องระมัดระวังอย่าให้น้ำเข้าในก้อนเชื้อเพาะเห็ดนางฟ้า จำหลักการง่าย ๆ คือ ควรรดน้ำให้ภายในโรงเรือนชื้น เย็น แต่ต้องไม่เข้าในก้อนเชื้อ ถ้ามีน้ำเข้าในก้อนต้องกรีดถุงเพื่อให้น้ำไหลออก มิฉะนั้นก้อนเชื้อจะเน่าเสียได้
ประโยชน์ของเห็ดนางฟ้า มีดังนี้
• บำรุงกระเพาะอาหาร
• คุมการทำงานของสมอง หัวใจ ปอด ตับ อาการเส้นโลหิตฝอยแตก
• ช่วยการไหลเวียนของโลหิต
• กระตุ้นการทำงานของเลือดให้ทำงานปกติ
• บรรเทาอาการเจ็บปวด เช่น การปวดฟัน บรรเทาอาการตกเลือด ริดสีดวง
• บรรเทาการเป็นตะคิว อาการของบิด
• ช่วยยับยั้งเนื้อร้ายหรือมะเร็ง
• ช่วยป้องกันโรคเจ็บคอ โรคโลหิตจาง และโรคร้อนใน
สำหรับบทความนี้เป็นแค่ส่วนหนึ่งเท่านั้นในการปลูก การปลูกนั้นสามารถทำได้หลายวิธี หากเกษตรกรท่านใดสนใจที่จะเพาะปลูกเห็ดนางฟ้าลองนำวิธีนี้ไปปรับใช้กันดู ซึ่งเห็ดจะสามารถทำเงินให้กับคุณได้มากมาย
ความคิดเห็น
แสดงความคิดเห็น